ขั้นตอนและวิธีศึกษาโครงการ

1. งานศึกษาทบทวนการศึกษาและแผนพัฒนาเกี่ยวข้อง
  • ศึกษาทบทวนยุทธศาสตร์และแผนงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในระดับต่าง ๆ
  • ศึกษาทบทวนและประเมินผล การปฏิบัติงานและผลสัมฤทธิ์ของแผนพัฒนาทางหลวงในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาของกรมทางหลวง

2. งานศึกษาด้านเศรษฐกิจและสังคม
  • ศึกษาสำรวจข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจและสังคม
  • ศึกษาและวิเคราะห์หารูปแบบ/แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสภาพทางเศรษฐกิจ สังคม รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงอื่นที่จะมีผลต่อการจราจรในอนาคต
3. งานศึกษาด้านจราจรและขนส่ง
  • ศึกษาและรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงข่ายคมนาคมขนส่ง โดยครอบคลุมโครงข่ายทางหลวงและโครงข่ายคมนาคมขนส่งรูปแบบอื่นทุกประเภท
  • รวบรวมข้อมูลด้านจราจร ที่เป็นข้อมูลทุติยภูมิจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้มีการรวบรวมหรือสำรวจไว้แล้ว
  • ศึกษาและสำรวจปริมาณจราจรโดยการนับรถแยกประเภท (Classified Traffic Count)
  • ศึกษาและสำรวจจุดต้นทาง-ปลายทาง (O-D Survey)
  • ศึกษาและสำรวจความเร็วในการเดินทางบนโครงข่าย (Traffic Speed Survey)
  • ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วกับปริมาณจราจร (Speed-Volume Relationship)
  • ศึกษาพฤติกรรมการเลือกรูปแบบการเดินทาง (Mode Choice)
  • ศึกษาพฤติกรรมการเลือกใช้เส้นทาง (Route Choice)
  • จัดทำแบบจำลองจราจร โดยอาจจัดหาเครื่องมือเพื่อช่วยอำนวยความสะดวก มาประกอบการดำเนินงาน
  • พัฒนาแบบจำลองจราจรมหภาค (Macro Traffic Model)
  • พัฒนาแบบจำลองจราจรจุลภาค (Micro Traffic Model) หากจำเป็น
  • ส่งมอบ Input Files และ Script ที่ใช้ในการพัฒนาแบบจำลอง เมื่อศึกษาแล้วเสร็จ
  • วิเคราะห์ระดับการให้บริการของพื้นที่โครงการ (Level of Service) 

4. งานจัดทำบัญชีโครงการ
  • ศึกษารวบรวมโครงการพัฒนาทางหลวงและกำหนดหลักเกณฑ์การคัดเลือกโครงการเพื่อจัดทำบัญชีโครงการ Longlist
  • กำหนดหลักเกณฑ์ในการคัดกรองโครงการ Longlist เพื่อจัดทำบัญชีโครงการ Shortlist
5. งานศึกษาด้านวิศวกรรม
  • สำรวจและจัดเตรียมแผนที่ และ/หรือ ภาพถ่ายทางอากาศหรือดาวเทียม และแผนที่แสดงเส้นชันความสูง ครอบคลุมพื้นที่โครงการเพื่อจัดเตรียมข้อมูลสภาพภูมิประเทศ
  • สำรวจและรวบรวมข้อมูลทุติยภูมิการตรวจสอบคุณภาพดิน (Test Pit) ข้อมูลสำรวจดินฐานราก (Boring Test) และข้อมูลแหล่งวัสดุ (Soil Survey) จากโครงการต่าง ๆ ที่ได้มีการรวบรวมหรือสำรวจไว้แล้ว
  • ศึกษาและออกแบบแนวทาง, รูปตัดทาง, และโครงสร้างต่าง ๆ โดยคำนึงถึงมาตรฐานการออกแบบและชั้นทางของกรมทางหลวง ความปลอดภัยของผู้ใช้เส้นทางและคนเดินเท้า ตลอดจนสภาพแวดล้อมของเส้นทางภายใต้แนวคิด Green Environment
  • ศึกษาออกแบบทางแยกต่างระดับ โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพการจราจร ความสะดวกคล่องตัว และความถูกต้องตามหลักวิศวกรรมจราจรและวิศวกรรมงานทาง
  • ออกแบบระบบระบายน้ำ โดยยึดมาตรฐานการออกแบบของกรมทางหลวง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน (Land Use) และให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่
  • จัดทำแบบร่างแนวคิดเบื้องต้นที่เพียงพอสำหรับการประมาณการมูลค่าการลงทุนของโครงการ
  • ประมาณการค่าก่อสร้างและค่าบำรุงรักษาเบื้องต้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการโครงการ
6. งานศึกษาด้านวิ่งแวดล้อมเบื้องต้น
  • ศึกษาและจัดทำรายงานการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นให้สอดคล้องกับแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการทางหลวง
  • ศึกษาทบทวนและวิเคราะห์นโยบาย แผน คำสั่ง ระเบียบ กฎหมาย และเอกสารที่เกี่ยวข้อง
  • ศึกษารวบรวม ตรวจสอบ และจัดทำฐานข้อมูลพื้นที่อ่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมในระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ในรูปแบบ Digital File ลงใน USB Drive
  • วิเคราะห์และจัดทำสรุปรายละเอียดโครงการที่ต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (IEE) หรือรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ในรูปแบบตาราง ระบุชื่อโครงการ ชื่อและตำแหน่งพื้นที่ที่เป็นข้อจำกัด
  • ประเมินค่าใช้จ่ายสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นเพื่อประกอบการพิจารณาแผนพัฒนาทางหลวง
  • รวบรวมและประเมินผลข้อมูลสภาพสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันให้ครอบคลุม 4 ด้าน คือ ด้านกายภาพ ด้านชีวภาพ การใช้ประโยชน์ของมนุษย์ และคุณค่าต่อคุณภาพชีวิต โดยวิธี Checklist พร้อมจัดทำมาตรการป้องกันและลดผลกระทบเบื้องต้น 
7. งานศึกษาวิเคราะห์โครงการด้านเศรษฐกิจ
  • วิเคราะห์และประเมินค่าใช้จ่ายของโครงการเบื้องต้นและค่าใช้จ่ายตามมาตรการเพื่อป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม
  • ประเมินผลประโยชน์ทางตรง และทางอ้อมของโครงการ โดยแสดงเป็นราคาด้านการเงิน ด้านเศรษฐกิจ ค่าใช้จ่ายการใช้รถ (VOC) มูลค่าการเดินทาง(VOT) ค่าความสูญเสียจากอุบัติเหตุ(ACC) พร้อมปรับปรุงข้อมูลพื้นฐานให้ทันสมัยและเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน และระบุผลประโยชน์โครงการที่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • วิเคราะห์ความคุ้มค่าด้านเศรษฐศาสตร์ของโครงการเบื้องต้นในรูปของอัตราผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (EIRR) อัตราส่วนผลตอบแทนต่อการลงทุน (B/C) มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) อัตราผลตอบแทนปีแรก (FYRR) ความอ่อนไหวของโครงการ (Sensitivity Test) ให้ครอบคลุมปัจจัยเสี่ยง
8. งานจัดทำแผนพัฒนาทางหลวง
  • ศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องในทุกประเด็นโดยใช้การวิเคราะห์ 2 ขั้นตอน (Two-Stage Analysis Technique: TSAT)
  • วิเคราะห์ประสิทธิภาพแผนงานในขั้นตอนแรกด้วยตัวชี้วัดเชิงปริมาณและคุณภาพ เช่น ความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์กรมทางหลวง นโยบายด้านคมนาคม ประสิทธิภาพด้านการจราจร วิศวกรรม เศรษฐศาสตร์ และความคุ้มค่า โดยที่ปรึกษาอาจเน้นโครงการที่ตอบสนองความต้องการพื้นที่ ผลลัพธ์จะเป็นรายชื่อโครงการพัฒนาทางหลวง 12 ประเภท โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากกรมทางหลวงก่อนดำเนินการ
  • วิเคราะห์จัดลำดับความสำคัญของโครงการเพื่อจัดทำแผนพัฒนาทางหลวง โดยพิจารณาปัจจัยสำคัญระดับประเทศ เช่น ศักยภาพโครงข่ายการจราจร ความเท่าเทียมในการกระจายงบประมาณ ข้อจำกัดด้านกฎหมาย และกรอบวงเงินงบประมาณ ปัจจัยทั้งหมดต้องได้รับความเห็นชอบจากกรมทางหลวงก่อนดำเนินการ
9. งานพัฒนาเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจ
  • ปรับปรุงฐานข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS Database) ให้ทันสมัยและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยในฐานข้อมูลต้องประกอบด้วย ข้อมูลโครงข่ายทางหลวงและโครงการที่อยู่ในแผนพัฒนาทางหลวงตลอดระยะเวลา 10 ปี ปริมาณจราจรที่ได้จากแบบจำลอง Traffic Assignment ข้อมูลโครงข่ายคมนาคมขนส่งทุกรูปแบบ ความสามารถในการเพิ่ม/ปรับปรุงเส้นทางในอนาคต และข้อมูลด้านเศรษฐกิจที่จำเป็น
  • พัฒนาเครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางด้านเศรษฐศาสตร์ด้วยการวิเคราะห์เปรียบเทียบต้นทุนและผลประโยชน์ (Cost Benefit Analysis) พร้อมแสดงค่าดัชนีชี้วัดทางเศรษฐศาสตร์ที่ใช้โดยทั่วไป
  • พัฒนาเครื่องมือช่วยในการตัดสินใจ เพื่อเชื่อมโยงการวิเคราะห์การจัดทำแผนพัฒนาทางหลวงที่ได้จากการวิเคราะห์ 2 ขั้นตอน และฐานข้อมูลโครงการที่แสดงผลในรูปแบบแผนที่ GIS 
10. งานรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม
  • เสนอแผนการดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับหน่วยงานภายในกรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • จัดให้กลุ่มเป้าหมายทั้งภายในกรมทางหลวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง โดยการเผยแพร่ข้อมูลการศึกษาผ่านสื่อช่องทางต่าง ๆ
  • จัดให้มีการประชุม การปฐมนิเทศโครงการ เพื่อนำเสนอรายละเอียดต่อหน่วยงานภายในกรมทางหลวงและหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง 1 ครั้ง โดยให้มีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำนักงานทางหลวงทั่วประเทศเพื่อรับทราบข้อคิดเห็นและข้อมูลต่าง ๆ ที่จำเป็น
  • จัดคณะบุคลากรหลัก โดยอย่างน้อยต้องประกอบด้วย ผู้ชำนาญการด้านวิศวกรรม รวมทั้งผู้ที่รับผิดชอบในด้านการมีส่วนร่วมของประชาชนไปนำเสนอ ชี้แจง และรับฟังข้อมูลจากหน่วยงานภายในกรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
  • จัดทำและแก้ไขเอกสารประกอบการประชุมและสิ่งพิมพ์ที่จะนำไปเผยแพร่
  • รวบรวมและวิเคราะห์ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่ได้รับมาจากกิจกรรมการเผยแพร่ข้อมูลในภาคสนามแต่ละครั้ง และจัดทำเป็นรายงานสรุปผลการดำเนินงาน
11. งานจัดฝึกอบรม
  • จัดอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีเกี่ยวกับเครื่องมือวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์และเครื่องมือช่วยตัดสินใจในการจัดทำแผนพัฒนาทางหลวงให้แก่เจ้าหน้าที่สำนักแผนงาน จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 จะอบรมหลังส่งมอบรายงานความก้าวหน้าฉบับที่ 4 และครั้งที่ 2 หลังส่งมอบรายงานความก้าวหน้าฉบับที่ 5